โดนลูกน้องหลอกไปรุมเย็ด

โดนลูกน้องหลอกไปรุมเย็ด 00 000 ดิฉันทำงานที่บริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง โดยมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด มีลูกน้องอยู่ห้าคน นิสัยของดิฉันเป็นคนที่จริงจังและสนุกกับงานแต่ไม่ถึงกับบ้างานนะ พอพ้นจากเวลางานดิฉันก็จะโยนทุกอย่างทิ้ง แล้วใช้ชีวิตไปในแนวที่ติดหรูหรา ดิฉันเป็นคนชอบเที่ยว ชอบชอปปิ้งของหรูๆ จริงๆไม่ค่อยสนใจราคาเท่าไหร่ คือถ้าเห็นแล้วอยากได้ก็จะอดใจไม่ไหว ซึ่งที่ถูกใจส่วนใหญ่ก็จะมีราคาแพงเหมือนกัน แต่มันก็คุ้มเพราะเราซื้อที่เราอยากได้จริงๆ แล้วของพวกนี้ส่วนใหญ่จะใช้ได้นานเพราะเป็นเกรดดี แล้วมันก็ทำให้มีความสุข พอได้ใช้ของดีก็ทำให้เรายิ้มได้

งานที่บริษัทของดิฉันปกติจะไม่ค่อยมาก แต่ก็มีบางช่วงของปีจะมีงานยุ่ง ซึ่งจะเหนื่อยมากๆ ก็เลยต้องหาทางเติมความสุขให้กับตัวเอง ด้วยความที่ตำแหน่งของดิฉันค่อนข้างมีรายได้ดี ทำให้ดิฉันชอบไปต่างประเทศ ไปหาประสบการณ์แล้วก็ถือโอกาสเที่ยวไปด้วยในตัว ไปสวิสบ้าง ไมอามี่บ้าง นอนโรงแรมหรูๆหน่อย ถึงจะต้องใช้เงินมากแต่ดิฉันก็ไม่เสียดายอะไร เพราะถือว่าเป็นรางวัลแก่ชีวิต

ดิฉันเป็นคนชอบเที่ยว ประเภทเฮไหนเฮนั่น กินเหล้าได้ดึกดื่นไม่มีถอย แต่ไม่กินจนเมาหรอกนะคะ การเต้นรำในเธคเป็นอีกที่ๆดิฉันโปรดปรานมากอีกอย่างหนึ่ง เพราะไปเที่ยวกันได้หลายคนและสนุก ดิฉันมักออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่เคยเรียนมาด้วยกัน เพื่อนดิฉันแต่ละคนก็การงานดีๆกันทั้งนั้น บางคนก็เป็นนักธุรกิจ เป็นนางแบบก็มี พวกเราสาวๆจะแต่งตัวกันเก่งเวลาไปเที่ยวมักจะมีหนุ่มๆมองกันตาเป็นมัน แต่พวกเราก็แค่เที่ยวสนุกๆไม่ค่อยสนใจผู้ชายพวกนี้หรอกค่ะ

มีอยู่วันหนึ่ง ที่ดิฉันออกไปตรวจตลาดข้างนอก โดยมีนเรศ ลูกน้องคนหนึ่งของดิฉันไปด้วย นเรศเป็นคนคุยเก่ง หน้าตาดี ดิฉันจึงมักจะชวนเขาออกมาด้วยบ่อยๆ หลังจากเสร็จธุระ ขากลับก็แวะทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เราคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่แล้วอยู่ๆนริสก็ทำให้ดิฉันแปลกใจ

“คุณพิมพ์ครับ วันเสาร์นี้เราไปดิ้นกันไหม ผมนัดกับเพื่อนไว้สิบคน” นเรศชวน

ดิฉันออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกัน ที่อยู่ๆนเรศจะเอ่ยปากชวน เพราะปกติแล้วดิฉันจะค่อนข้างไว้ตัวกับลูกน้อง ไม่ยอมสนิทสนมเกินเลยมาก เพราะกลัวจะเสียเรื่องการงาน แต่ด้วยความทีช่วงนั้นพวกเพื่อนๆของดิฉันดันมีงานยุ่งกันหมด ดิฉันไม่มีเพื่อนเที่ยว จึงค่อนข้างสนใจคำชวนของนเรศอยู่เหมือนกัน

“มีใครบ้างคะนเรศ… พิมพ์รู้จักหรือเปล่า”
ถึงจะอยากเที่ยวแต่ดิฉันก็ถามอย่างระวัง
“ส่วนใหญ่ก็พวกในออฟฟิศนั่นแหละครับ มีทั้งผู้ชายผู้หญิง จริงๆเราก็ไปกันบ่อยๆแต่ไม่กล้าชวนคุณพิมพ์”
“แล้วทำไมอยู่ๆมาชวนพิมพ์ล่ะคะ”
“ก็ลองชวนดูครับ เผื่อคุณพิมพ์จะสนใจอยากไปแจมกับพวกเราบ้าง”
ดิฉันนิ่งไปชั่วครู่ เขาก็ถามต่อ
“ตกลงคุณพิมพ์จะไปไม๊ครับ”
“เดี๋ยวพิมพ์ต้องดูก่อนว่าติดนัดอะไรรึเปล่า”
ดิฉันพูดไปอย่างนั้นเอง ในใจนั้นอยากไปอยู่แล้ว เพราะเธคที่เขาบอกเป็นเธคที่กลุ่มของดิฉันไปบ่อยๆ อีกทั้งคนที่ไปเที่ยวก็พวกเด็กในบริษัทเกือบทั้งหมด ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ดังนั้นในที่สุดดิฉันดิฉันก็ตกลงไปเที่ยวกับเขา วันนัดดิฉันขับรถไปที่นัดหมาย ก็พบพวกเด็กในบริษัทเป็นส่วนใหญ่ และก็มีเพื่อนของนเรศด้วย เพื่อนคนหนึ่งของเขาเหล่อมาก ชื่อ ปราการ หล่อจนเด็กผู้หญิงอยากอยู่ใกล้เขากันหมด แต่ดิฉันค่อนข้างเฉยๆเพราะเพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก

“คุณพิมพ์ให้เกียรติออกไปดิ้นกับผมสักเพลงได้ไหมครับ”
ดิฉันเดินออกมาจากห้องน้ำยังไม่ถึงโต๊ะก็ได้ยินเสียงพูดดังขึ้น ปราการนั่นเอง เขาดักรออยู่ ดิฉันยิ้มให้แล้วออกไปดิ้นกับเขาด้วยความเต็มใจ

เพลงดิ้นจบลงอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นก็เป็นเพลงช้า ดิฉันจึงขอตัวกลับโต๊ะ แต่ปราการไม่ยอม จับมือดิฉันไว้
“รังเกียจผมหรือครับ จึงรีบกลับ ผมชวนคุณพิมพ์เพราะอยากซบต่อจากดิ้นนี่เอง ให้เกียรติผมหน่อยนะครับ”

ดิฉันหน้าแดงที่เขามาขอซบตรงๆ สถานการณ์แบบนี้ถ้าปกติดิฉันคงจะต้องไม่สนใจเขาแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นฤทธิ์แอลกอฮอร์ หรืออะไรไม่ทราบทำให้ดิฉันยอมตกลงไปกับเขา

ดิฉันจึงซบกับปราการด้วยเพลงช้าต่อไป ดิฉันมองมายังโต๊ะนั่งปรากฏว่ามีสายตาหลายคู่มองมาที่ดิฉันด้วยแววตาประหลาด ทำให้ดิฉันรู้สึกตัวรีบขอตัวกับเขาทั้งๆที่เพลงยังไม่จบ

หลังจากมาที่โต๊ะ ปราการก็เปลี่ยนที่นั่งมาติดกับดิฉันทันที เขาพูดเก่งพูดเพราะและเอาใจเก่ง ส่วนมือเขาก็เก่งเหมือนกัน เขาพูดไปพลางจับมือดิฉันไปด้วย บางทีก็วางมือบนขาอ่อนของดิฉันขณะพูดกับคนอื่น ดิฉันตอนนั้นเริ่มมึนนิดๆ จึงไม่ได้ปิดป้องแถมยังรู้สึกจิตใจวูบวาบเพราะการสัมผัสจากปราการ

วันนั้นพวกเราเฮฮากันมาก ดิฉันกินชนแก้วจนเมา ตอนนั้นดิฉันรู้สึกจิตใจวูบวาบ รู้สึกแปลกๆแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ปราการเริ่มเสียมารยาทด้วยการจับมือจับแขนแบบคนสนิทสนม แต่ตอนนั้นดิฉันไม่ได้ปิดป้องใดๆเลย พอได้เวลาที่ต่างคนต่างจะแยกกันกลับบ้าน ปรากฏว่าดิฉันรู้สึกมึนจนจะขับรถไม่ไหว นเรศกับปราการเลยบอกว่าจะพาดิฉันไปส่งให้เอง

นเรศถามที่อยู่เรียบร้อยเขาก็ประคองดิฉันที่กำลังมึนมาขึ้นนั่งทางด้านหลัง ของรถ ปราการนั่งประกบอยู่อีกด้าน มีเพื่อนของเขาชื่อวิเชียร อีกคนรับหน้าที่เป็นคนขับ ดิฉันนั่งสลึมสลือไปตลอดทาง ดิฉันรู้สึกว่าถูกปราการโอบไว้ แต่หัวมันหนักแข็งขืนไม่ไหว แม้ว่ารถจอดแล้วดิฉันก็ยังไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งถูกพาไปนอนบนที่นอนจึงได้รู้สึกตัว

“ที่ไหนคะนเรศ”
“ห้องผมเองไม่ต้องกลัว คุณพิมพ์เมามากถ้าเข้าบ้านแบบนี้ผมเห็นว่าไม่เหมาะ จึงพามาที่ห้องผมก่อน พอหายเมาแล้วค่อยกลับไปจะได้ไม่เกิดปัญหา”
คำพูดของนเรศไม่สมเหตุผลเลย แต่ดิฉันก็มึนจนคิดอะไรไม่ออก ดิฉันเอนตัวลงนอนจนหลับไปแล้วก็มารู้สึกตัวอีกหนเมื่อได้ยินเสียงนเรศกับ เพื่อนคุยกัน
“เป็นไงผมบอกคุณแล้วใช้มั้ยว่านายผมสุดยอด” เสียงนเรศพูด
“อืมมมม… จริง… ขาวเนียนน่ากินที่สุด นมโคตรใหญ่เลย….อูยเด้งมือจริงๆ” ปราการตอบ มือของเขาขยำนมของดิฉัน

ดิฉันตกใจมากรีบดิ้นพยายามจะลุกขึ้น แต่ทั้งสองรีบกดดิฉันไว้
“เอ้า…รู้สึกตัวแล้วหรือครับคุณพิมพ์ อย่าดิ้นน่า พวกผมจะช่วยทำให้มีความสุข”
“..อย่า…ไม่เอา..ปล่อยนะ” ดิฉันร้องโวยวาย
“หยุดดิ้นได้แล้ว” นเรศพูดเสียงดังพร้อม จิกผมจนหน้าดิฉันเชิดขึ้น มือที่แข็งแรงของเขายึดแขนดิฉันไว้แน่น ดิฉันตกใจจนหน้าซีดไม่คิดว่าเขาจะทำหยาบคายกับดิฉัน
“หึ หึ อย่าดิ้นให้เหนื่อยเลยครับคุณพิมพ์ ยังไงวันนี้คุณพิมพ์ก็ไม่รอดมือพวกผมหรอก” เพื่อนคนหนึ่งของปราการที่ชื่อวิเชียรบอก เขานั่งอยู่ที่ช่วงขาของดิฉัน
“อย่าทำพิมพ์เลยค่ะ นเรศ”
ดิฉันวิงวอนแทบจะหายเมาเพราะเริ่มจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ผล นเรศก้มลงเอาปากมาประกบที่ปากดิฉัน ลิ้นแทรกเข้าไปดูดปากแล้ว มือเฟ้นฟอนสัมผัส ลูบไล้ไปทั่วตัวของดิฉันอย่างหยาบคาย
“อย่า …อย่าค่ะ..อย่า..นเรศ..ขอร้อง..”
ดิฉันร้องห้าม แต่แทนที่จะฟังวิเชียรจับขาฉันทั้งสองข้างยกขึ้นแทบจะติดกับหน้าอก สะโพกลอยคว้างขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ กระโปรงเปิดออกทำให้เห็นกางเกงในที่ปิดโคกนูนของดิฉัน ซึ่งตอนนี้ลอยเด่นเหมือนจะท้าทายสายตาเขา นเรศจับขาทั้งสองข้างของดิฉันแยกออก
“อืมม ขาขาวสวย อูมเต็มขาเลยนะคุณพิมพ์…”
เขาพูดพร้อมกับหัวเราะชอบใจ ดิฉันอายมาก เขาลูบไล้ไปตามเรียวขาแล้วคลึงบริเวณเป้ากางเกงในก่อนจะแหวกออก แล้วสอดนิ้วเข้าไปในกางเกงใน พร้อมกับส่งนิ้วเข้าไปในร่องหลืบของดิฉันชักเข้าออกอย่างหยาบคาย

ปราการคุกเข้าอยู่ด้านหน้า มือบีบขยำอยู่ที่เต้านมทั้งสองข้าง
“โอววววว ซีดดดดดดด เต็มไม้เต็มมืออะไรอย่างนี้” ปราการพึมพำอย่างมันเขี้ยว
ทั้งสามคนยึดดิฉันไว้แน่น ดิฉันไม่สามารถขัดขืนได้เลย
“อูยยยย …ขนาดนิ้วยังฟิตเป็นบ้า” วิเชียรพึมพำขณะที่ล้วงชักเข้าออก “อูยยยย หอยเจ้านายคุณตอดนิ้วผมใหญ่เลยว่ะ” วิเชียรพูด

นเรศกับปราการหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน วิเชียรเหมือนกับย่ามใจชักนิ้วเข้าออกถี่เร็วขึ้น มืออีกข้างก็ก็บีบขยำทรวงอกของดิฉันอย่างรุนแรง พร้อมกับเขี่ยอยู่ที่หัวนมของดิฉัน ปราการขยำหน้าอกข้างที่เหลือ พร้อมกับลูบไล้ไปทีหน้าท้องของดิฉัน
“.. จับเธอลุกขึ้นดีกว่า” วิเชียรพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
ดิฉันหอบหายใจ ด้วยความเหนื่อยและมึนเพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ปราการจับดิฉันลุกขึ้นนั่ง ขณะที่วิเชียรถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่า ดุ้นของเขาชี้โด่อยู่ที่หน้าของดิฉัน พุ่มพวงของเขาก็ห้อยแกว่งไกวอยู่ตรงปาก โอคุณพระช่วย! สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของดิฉันมันช่างน่าเกลียดน่ากลัวเหลือเกิน ตอนนี้ดิฉันรู้แล้วว่าเขาจะให้ทำอะไร ดิฉันตกใจมาก

“ดูดดุ้นให้ผมหน่อยซิคุณพิมพ์” วิเชียรสั่ง
“ไม่เอา.สกปรก…เอาออกไป…ไม่ทำ..” ดิฉันร้องไห้พร้อมกับเบือนหน้าหนี
“ไม่เอาก็ต้องเอา” นเรศตวาด
นเรศกับปราการช่วยกันจับศีรษะของดิฉันไว้ พยายามบังคับให้อมให้วิเชียร แต่ดิฉันเม้มปากแน่น ปราการก็เลยบีบที่คางของดิฉันอย่างแรง พร้อมกับปิดจมูกของดิฉันด้วย ทำให้ดิฉันต้องอ้าปากออกเพื่อสูดลมหายใจ

วิเชียรรีบเอาดุ้นยัดเข้ามาทันที แต่เพราะความยาวมันเขาจึงยัดเข้ามาได้แค่ครึ่งเดียว ดิฉันรู้สึกเหม็นมาก เหม็นที่สุดในชีวิต กลิ่นหืนจนอยากจะคายมันออกมา แต่นเรศกับปราการกดศีรษะดิฉันไว้แน่น วิเชียรกระเด้าที่ปากของดิฉันอย่างเมามัน ดิฉันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยเพราะปราการกับนเรศช่วยกันจับดิฉันไว้ไม่ให้ดิ้นหนี วิเชียรกระเด้าปากดิฉันอย่างรุนแรง ดิฉันน้ำตาไหลพรากๆเลย ดุ้นของเขาเหม็นคาวมาก ดิฉันทำท่าจะอ้วก พอปราการเห็น ก็ตบหน้าดิฉันเบาๆ
“อย่าอ้วกนะคุณ ถ้าอ้วกผมต่อยคุณจริงๆ” เขาขู่ แววตาของเขาน่ากลัวมากดิฉันต้องฝืนใจปล่อยให้วิเชียรทำ ทั้งๆที่ผะอืดผะอมและขยะแขยงเหลือเกิน
“ดูดด้วย อย่าอมอย่างเดียว ” วิเชียรบอก
“อา…อูย….ซี๊ดส์…” วิเชียรเสียวถึงกับครางอู้เลยทีเดียว
“เด้งรับหน่อยสิคุณพิมพ์ เอาเข้าไปให้สุดลำเลย” นเรศพูดพร้อมกับจับศีรษะดิฉันไว้ให้กระแทกรับท่อนเนื้อของวิเชียร ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน วิเชียรกระเด้าปากดิฉันจนพอใจ แล้วก็จับดิฉันคลานคุกเข่าอยู่บนพ้น นเรศรีบถอดกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วเข้าไปคุกเข่าด้านหลังพร้อมกับเอื้อมมือมาจับเอวดิฉันไว้
ดิฉันตกใจแทบสิ้นสติ พยายามจะคลานหนี
“จะไปไหน” นเรศตวาดพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
ปราการกับวิเชียรช่วยกันเข้ามายึดสะโพกดิฉันไว้
“อย่า..อย่า..นิรศ…อย่าทำ…” ดิฉันร้อง แต่นเรศไม่สนใจเลย พยายามจะเอาดุ้นของเขายัดเข้าไปในตัวดิฉัน ดิฉันกลัวมาก แม้ว่าเรี่ยวแรงตัวเองจะเหลือเพียงน้อยนิด แต่ก็ฮึดสู้ไม่ยอมเขาง่ายๆ พอถูกดิฉันขัดขืนมากๆ นเรศก็บีบขาอ่อนดิฉันอย่างแรง ดิฉันกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บ ปราการกับวิเชียรช่วยกันจับดิฉันให้แยกขาออก
“อย่า..อย่าทำ…” ดิฉันร้องวิงวอน
นเรศดันเข้ามาทันที
“โอ๊ย เจ็บ ฮือๆ อย่า เจ็บ เจ็บ.. นเรศ พิมพ์เจ็บ” ดิฉันร้องไห้เพราะรู้สึกเจ็บอย่างสุดชีวิตที่หว่างขาตัวเองและรู้สึกตึงแน่น ไปทั้งตัว ดุ้นของนเรศเข้าไปอยู่ในตัวของดิฉันแล้ว
“เจ็บนิดเดียวครับ..เดี๋ยวคุณพิมพ์จะมันส์สุดๆ” เขาพูดพร้อมกับดันพรวดมาจนมิดแล้วก็เริ่มกระเด้าอย่างรุนแรง
“อา..อา..ซี๊ด..ซี๊ด มันส์จริงๆ” นเรศครางพร้อมกับกระแทกกระทั้นถี่ยิบ
ดิฉันร้องไห้น้ำตาไหลพรากๆ ปราการจิกผมดิฉันไว้ เมื่อเห็นดิฉันพยายามจะดิ้นหนี เขาเลยกระชากผมดิฉันจนหน้าหงาย
“หยุดดิ้นซะที”

โดนลูกน้องหลอกไปรุมเย็ด