“การเบี่ยงเบนทางเพศ” ในมุมมองจิตวิทยา

0 views
|

คำว่า “การเบี่ยงเบนทางเพศ” มักถูกใช้แบบเหมารวมกับพฤติกรรมที่แตกต่างจากเพศวิถีทั่วไป เช่น ความชอบทางเพศที่ไม่ปกติ หรือพฤติกรรมล่วงละเมิดที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของจิตวิทยา ไม่ใช่พฤติกรรมทุกอย่างที่ต่างจากมาตรฐานจะถือว่า “ผิด” เสมอไป — สิ่งสำคัญคือผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้อง และเจตนาที่อยู่เบื้องหลัง

📘 โดจิน การเบี่ยงเบนทางเพศคืออะไร?

ตามคู่มือ DSM-5 (คู่มือวินิจฉัยทางจิตเวชของอเมริกา) พฤติกรรมทางเพศจะถูกมองว่าเป็น “ความผิดปกติ” ต่อเมื่อ:

  • ทำให้ผู้กระทำรู้สึกทุกข์อย่างรุนแรง (distress)
  • ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น เช่น การล่วงละเมิด
  • เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ไม่สามารถยินยอมได้ (เช่น เด็ก, ผู้หลับ, ผู้พิการ)

🧠 พฤติกรรมเบื้องหลังเกิดจากอะไร?

นักจิตวิทยาแบ่งปัจจัยเบื้องหลังพฤติกรรมเบี่ยงเบนได้หลายแบบ เช่น:

  • การเรียนรู้ในวัยเด็ก – บางคนเติบโตในสภาพแวดล้อมที่มีพฤติกรรมทางเพศผิดปกติ ทำให้จดจำและเรียนรู้ว่าเป็น “เรื่องปกติ”
  • การบาดเจ็บทางจิตใจ – ผู้ที่เคยถูกล่วงละเมิดในวัยเด็กบางราย อาจกลายเป็นผู้กระทำเมื่อโตขึ้น (cycle of abuse)
  • แรงขับทางชีวภาพ – บางภาวะ เช่น hypersexuality หรือ paraphilia อาจเชื่อมโยงกับสมองหรือสารสื่อประสาท
  • ความรู้สึกด้อยค่า / ควบคุมไม่ได้ – บางคนแสดงพฤติกรรมทางเพศเพื่อชดเชยความรู้สึกถูกกดหรือไร้อำนาจ

🚫 ทำไมต้องระวังการเหมารวม?

คนจำนวนมากที่มีรสนิยมทางเพศต่างจาก “บรรทัดฐาน” เช่น BDSM, การแต่งกายข้ามเพศ ฯลฯ ไม่ได้ทำร้ายใคร และไม่ได้หมายความว่าพวกเขา “ผิดปกติ”
การตีตราทำให้คนที่ต้องการการช่วยเหลือไม่กล้าขอความช่วยเหลือ และอาจซ่อนปัญหาจนลุกลาม

❓ Q&A เกี่ยวกับพฤติกรรมเบี่ยงเบน

Q: พฤติกรรมเบี่ยงเบนสามารถรักษาได้ไหม?
A: ถ้าทำให้ตัวเองหรือผู้อื่นเดือดร้อน เช่น ล่วงละเมิด หรือติดพฤติกรรมผิดปกติ การบำบัดโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยได้
Q: การดูสื่อผิดกฎหมายถือว่าเป็นการเบี่ยงเบนหรือไม่?
A: ใช่ และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เยาว์หรือการกระทำที่ไม่ได้รับความยินยอม
Q: ทุกคนที่มีรสนิยมเฉพาะถือว่าเบี่ยงเบนไหม?
A: ไม่ใช่ ความต่างไม่เท่ากับความผิด จนกว่าจะส่งผลลบกับตัวเองหรือผู้อื่น
💬 ถ้าให้เล่าแบบชาวบ้าน:
พฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมือนคนอื่น ไม่ได้หมายความว่า “ผิดปกติ” เสมอไป แต่เมื่อมันข้ามเส้นที่ทำร้ายใคร หรือผิดกฎหมาย นั่นแหละที่เรียกว่า “อันตราย”

Related videos